วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บทที่12 พฤติกรรมฝูงชน

           พฤติกรรมฝูงชน เป็นปราฎการณ์หนึ่งทางสังคม ชึ่งเกิดจากกลุ่มคนที่ขาดระเบียบอย่างทันที โดยไม่ได้มีการขาดหมายไว้ล่วงหน้า แต่สภาวการณ์ต่างๆ ทางสังคมขณะนั้นเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วควบคุมได้ยาก  เพราะการติดต่อทางอารมณ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝูงชนมีความรู้สึกเร่งด่วนที่จะปฎิบัติการให้เสร็จสิ้นลงไป
           ความหมายของคำว่า " ฝูงชน" หมายถึง " คนจำนวนหนึ่งชึ่งมารวมตัวกันในเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมรจุดมุ่งหมายของความตั้งใจรวมกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางด้านจิตใจ และพฤติกรรม และยังมีคาวมใกล้ชิดกันมากทางร่างกาย "
          Milgram และ Toch ให้ความหมายของ พฤติกรรมฝูงชนว่า " เป็นพฤติกรรมที่เป็นไปเองโดยปกติวิสัย แต่ไม่มีการจัดระเบียบหรือวางแผน หรือ ทำนายได้ล่วงหน้า

ลักษณะของพฤติกรรมฝูงชน
          1) เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด และดำรงอยู่ในระยะเวลาอันสั้น เพราะเกิดขึ้นแบบทันทีเพื่อตอบโต้งต่อสิ่งเร้า หรือ สิ่งกระตุ้น เมื่ออารมณ์ได้รับการตอบสนองเป็นที่พอใจก็จะสลายตัวไป
          2) ไม่มีโครงสร้าง  หมายถึง ไม่มีการกำหนดสถานภาพ และบทบาท และความสัมพันธ์ของสมาชิกเพราะว่า ฝูงชนเกิดขึ้นแบบไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้า
          3) จำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมในฝูงชนมีจำนวนที่ไม่แน่นอน  อาจมีจำนวนมากหรือน้อยก็ได้
         4)  ไม่มีบรรทัดฐานทางสังคมควบคุม  คือ บรรทัดฐานทางสังคมเก่าจะถูกทำลายลงแต่บรรทัดฐานใหม่ของฝูงชนจะเกิดขึ้นมาได้ในภายหลัง และในสภาวะของฝูงชน บุคคลที่เข้าร่วมจะถูกอิทธิพลของกลุ่มครอบงำให้แสดงพฤติกรรมออกมาในรูปแบบเดียวกัน
         5)  ไม่มีตัวตน   เพราะฝูงชนประกอบด้วยคนหลายคนไปอยู่รวมกันแต่ละคน จะไม่มีการสนใจกันเป็นส่วนตัว  แต่จะถือว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มและพฤติกรรมของกลุ่มที่แสดงออกมาก็ไมมีคนต้องรับผิดชอบ เช่น การเผาตึก ก.ต.ป. เมื่อ 14 ต.ค. 2516
         6)  ไม่มีการเจาะจงตัวบุคคลคน  หมายถึง  การแสดงออกของพฤติกรรมของกลุ่ม   จะไม่มีการเจาะจงว่าเป้าหมายของการแสดงออกอยู่ที่ใด  ชึ่งบางครั้งบุคคลที่ถูกเจาะจงว่าเป็นเป้าหมายในเหตุการณ์ปกติอาจเป็นคนที่สนิทสนมคุ้นเคยกับสมาชิกคนใดคนหนึ่งอย่างมากก็ตาย
         7)   อยู่ในสภาวะที่ชักจูงได้ง่าย  เพราะฝูงชนไม่มีโครงสร้าง ไมมี หังหน้า บนนทัดฐานทางสังคมสลายตัว ดังนั้นฝูงชนจึงมีแนงโน้มว่าจะปฎิบัติตามคำชักจูงของบุคคลหนึ่งโดยง่าย  ชึ่งบุคคลนั้นก็จะกลายเป็นผู้นำของฝูงชนได้ในภายหลัง เช่น กรณีไฟไหม้ หรือ เรือล่ม บุคคลที่แนะแนวทางออกให้กับฝูงชนได้ดี บุคคลนั้นจะกลายเป็นผู้นำ
        8)   มีการระบาดทางอารมณ์  เพราะฝูงชนเป็นกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ชิดกันในด้านร่างกาย การติดต่อกันทางอารมณ์จึงเป็นไปได้ง่ายอย่างรวดเร็ว ชึ่งทำให้อารณ์รุงแรงยิ่งขึ้น  การระบาดทางอารณ์เป็นกลไกลที่สำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมทางฝูงชน

ประเภทของฝูงชน
       นักสังคมวิทยาโดยทั่วไป ได้แบ่งประเภทของฝูงชนออกเป็น 4 ประเภท คือ
   1) Casual Crowd   หมายถึง ฝูงชนที่มารวมกันโดยไม่มีจุดมุ่งหมายโดนเฉพาะ  เป็นแต่เพียงมาความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนกันชั่วครู่ แล้วก็สลายตัวไป
   2) Conventional   เป็นฝูงชนที่มีความหมายมากกว่าประเภทแรก เพราะการรวมกันเป็นฝูงชนจะมีสัญลักษณ์บางอย่างควบคุมอยู่ คือ จะมีแบบแผน  หรือความสำนึกเป็นพวกเดียวกันควบคุมอยู่ เช่น การดูกีฬา ดนตรี  ภาพยนตร์
  3) Acting Crowd  เป็นฝูงชนที่มีความเคลื่อนไหวเสมอ พร้อมที่จะแสดงออก  การแสดงออกของฝูงชนประเภทนี้จะก้าวร้าว รุนแรง เชิงทำลาย  ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความสนใจจากนักสังคมวิทยา และนักรัฐศาสตร์มาก  เพราะการระบาดทางอารมณ์จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเร่งด่วนในการปฎิบัติการ
 4) Expressive Crowd   เป็นฝูงชนที่แสดงออกถึงอารมณ์ที่ตื่นเต้น สนุกสนาน  เฮฮา ป่าเถื่อน มัวเมา  เช่น การเต้นรำ กระทืบเท้า หรือปรบมือให้จังหวะ การมั่วสุมทางเพศ

         รูปแบบหรือชนิดของฝูงชน
รูปแบบหรือชนิดของพฤติกรรมฝูงชน แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
   1) ผู้ดูหรือผู้ฟัง เป็นฝูงชนที่มีจุดสนใจอยู่ที่สิ่งเร้าภายนอก อันอาจจะมามางเดียวหรือสองทาง  ฝูงชนชนิดนั้นได้แก่ฝูงชนประเภท Causal และ Conventional Crowd ฝูงชนจะถูกดึงดูดอารณ์ให้เคลื่อนไหวไปตามจังหวะของการเร้า ทำให้อารมณ์คล้อยตาม และทวีความรุนแรงขึ้น
   2) ฝูงชนที่บ้าครั่ง เป็นฝูงชนที่ถูกกระต้นหรือเร้าอารมณ์ ให้แสดงออกถึงพฤติกรรมที่รุนแรง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางอารมณ์ และพฤติกรรม มีจิตใจที่มุ่งมั่นจะแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว มีจุดหมายของการกระทำที่แน่นนอน และมีความเร่งด่วนในการปฎิบัติการให้เสร็จสิ้นลงไป

          การควบคุมฝูงชน
     การควบคุมฝูงชนจะทำได้ก็ต่อเมื่อฝูงชนเพิ่งเริ่มเกิดขึ้น เพราะถ้าฝูงชนเกิดขึ้นแล้ว การควบคุม หรือสลายฝูงชนจะทำได้ยาก สิ่งที่สามารถควบคุมฝูงชนได้คือ
       1) ตัวสมาชิกที่เข้ารวมฝูงชนเอง  โดยผู้เข้ารวมในฝูงชนไม่เกิดอารมณ์คล้อยตามมาจากผลประโยชน์ไม่สอดคล้องกัน หรือ ความคิดเกี่ยวกับศีลธรรมยังควบคุมอยู่การเข้าผนึกกำลังก็ทำได้ยาก
       2) ผู้นำฝูงชน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง เพราะในสภาวการณ์ของฝูงชน คนจะเกิดความขัดแย้งไม่แน่นใจจึงต้องการผู้นำ และบุคคลที่สามารถแนะแนวทางปลดปล่อยอารมณ์ได้อย่างชัดเจนจะได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำ
       3) ควบคุมจากภายนอก คือ
     ก.โดยดินฟ้าอากาศ  เช่น ในฤดูหนาว  พฤติกรรมของฝูงชนเกิดขึ้นได้ยากเพราะคนอยู่แต่ในบ้าน
     ข. โดยการเข้าแทรกแซง  โดยการพยายยามแยกหัวหน้าออก หรือ พยายยามสร้างจุดสนใจขึ้นหลายๆ จุด  เพื่อฝูงชนจะได้แยกเป็นกลุ่มเล็กๆ
     ค. โดยการใช้กำลัง  ซึ่งเป็นวิธีที่รุนแรงไม่เป็นที่นิยมเพราะอาจลุกลามไปสุ่เรื่องอื่นๆได้

ประโยชน์ของพฤติกรรมฝูงชน
        พฤติกรรมฝูงชนยังเป็นการสร้างความสนิทสนมเป็นส่วนตัว ทำให้เกิดความเข้าใจ และไว้วางใจกันซึ่งกันและกัน เช่น
    1)  งานเลี้ยง งานเต้นรำ หรือการแข่งขันกีฬา เป็นการผ่อนคลายพิธีที่ตึงเครียดลง เพราะ บรรยายกาศเป็นกันเอง เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอื่น
    2)   อาศัยสภาวการณ์ของฝูงชนสนันสนุนอาชีพ  หรือ  ความสำคัญของตนเอง  ซึ่งเป็นจิตวิทยาของฝูงชน  นักแสดง หรือ นักพูด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น